รอบแบ่งกลุ่มยูโรป้าลีก อาร์เซนอลยังคงรักษาการเริ่มต้นฤดูกาลของพวกเขาไว้ได้
รอบแบ่งกลุ่มยูโรป้าลีก มิชี่ บัตชูอายี่อดีตกองหน้าเชลซี คว้าชัยชนะเหนือเฟเนร์บาห์เช่เรอัลเบติส ยังคงไร้พ่ายในลีกสูงสุดของกลุ่ม C หลังเสมอกัน 1-1 ในบ้านในเกมกับโรม่าของโฮเซ่มูรินโญ่เรอัลโซเซียดาด เก็บชัยชนะ 4 นัดรวดจาก4นัดรวด จาก 4 นัด โดยได้ประตูจากอเล็กซานเดอร์ซอร์ลอธ, ดิเอโก้ริโก้ และ โรเบิร์ตนาวาร์โร ทาให้พวกเขาชนะเกมเหย้า 3-0 ในเกมเหย้าที่ชนะเชอริฟ ติราสโพล 3-0
สกอตต์แม็คโทมิเนย์ ซัดเข้าไปตุงตาข่ายอย่างเฉียบขาดเนื่องจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยังคงหวังคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก ด้วยการเอาชนะโอโมเนียนิโคเซีย 1-0 ในช่วงท้ายเกม อาร์เซนอลยังคงรักษาฟอร์มการเล่นในฤดูกาลนี้เอาไว้ได้อย่างต่อเนื่องเมื่อบูกาโยซาก้า ยิงประตูเดียวให้ทีมคว้าชัย 1-0 ที่โบโด้/กลิมท์ซาก้า ปีกทีมชาติอังกฤษที่โชคดีในครึ่งแรกทําให้เป็นชัยชนะ 3 นัดติดต่อกันในกลุ่ม A
สําหรับผู้นําพรีเมียร์ลีกของ มิเคล อาร์เตต้า ซึ่งชนะ 11 จาก 12 เกมแรกของฤดูกาลในทุกรายการพีเอสวีไอนด์โฮเฟ่น ยังคงตามหลังเดอะกันเนอร์สอยู่ 2 แต้มรั้งอันดับ 2 หลังบุกไปถล่มซูริค 5-0 ประตูที่สองและอีกสองประตูของโจอี้ เวียร์แมนจาก เอริคกูเตียร์เรซ, อิบราฮิมซังกาเร่
และอันวาร์เอล กาซี ทําให้ซูริคไม่มีแต้มจาก 4 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม เฟเนร์บาห์เช่ และ แรนส์ กระชับเกมในกลุ่มบี หลังบุกไปชนะลาร์นากาและดินาโมเคียฟตามลําดับจุดโทษช่วงท้ายเกมของ มิชี่ บัตชูอายี่ อดีตกองหน้าเชลซี ทําให้เฟเนร์บาห์เช่ ทีมจากตุรกีชนะ 2-1 https://leaguesnews.com
หลังอิวานทริคอฟสกี้ กัปตันทีมลาร์นากาได้ยกเลิกเกมเปิดฉากครึ่งแรกของโจเอาเปโดร แองเจิลการ์เซียกองหลังลาร์นากา โดนใบแดงทันทีในช่วงท้ายเกมจากจังหวะที่ ดิเอโก้รอสซี่ โหม่งแต่ลูกจุดโทษของ เอ็นเนอร์วาเลนเซียอดีตกองหน้าเวสต์แฮมก็เซฟเอาไว้ได้ คริสโตเฟอร์ วูห์ กองหลังแรนส์ทําประตูในครึ่งหลังแบบโดดเดี่ยวในคราคูฟทําให้ทีมฝรั่งเศสมีแต้มเท่ากับเฟเนร์บาห์เชผู้นํากลุ่มและมอบชัยให้เคียฟเป็นนัดที่สี่ติดต่อกัน
เรอัลเบติสยังคงไร้พ่ายในลีกสูงสุดของกลุ่ม C หลังเสมอกับโรม่า 1-1 ในบ้าน
อันเดรียเบล็อตติ ยิงอีควอไลเซอร์ในครึ่งหลังให้โรม่าหลังจากที่เซร์คิโอ คานาเลส ให้เบติสขึ้นนําครึ่งเวลาแรกแต่ชาวอิตาเลียนตามหลังลูโดโกเร็ตส์ ราซกราด 3 แต้มซึ่งเอาชนะเอชเจเคเฮลซิงกิ 2-0 ที่บัลแกเรีย ในกลุ่ม D แฮตทริกในครึ่งแรกของวิตอร์ โอลิเวร่าไม่เพียงพอที่จะทําให้สปอร์ติ้ง บราก้า คว้าชัยชนะที่ยูเนียน แซงต์-กิลลอยส์ ที่ตีเสมอ 3-1 ลงมาช่วยทีมเก็บแต้มได้
โอลิเวยร่า ยิงไป 2 ครั้งใน 5 นาทีในช่วงท้ายครึ่งแรก หลังจากที่เจ้าบ้านโดนวิคเตอร์ โบนิเฟซดันเต้ ฟานซีเย่ร์ ซัดไปติดเซฟของแซงต์-กิลลอยส์และโบนิเฟซ ทําแต้มเท่ากันเป็นนัดที่ 2 หลังจบเกมนาทีที่ 10 ทําให้ทีมชาติเบลเยียมเก็บสามแต้มให้ได้เหนือกว่า โรบิน นอช เปลี่ยนจุดโทษช่วงท้ายเกมเมื่อยูเนียนเบอร์ลิน เอาชนะ มัลโม่ 1-0 ในบ้านเพื่อไล่ตามสองทีมสุดท้าย
เฟเยนูร์ด รั้งอันดับ 1 ของกลุ่ม F ด้วยผลต่างประตูได้เสียหลังถูกจัดให้ทีมเยือนเสมอกับมิดทิลแลนด์ 2-2 ซึ่งเป็นอันดับสอง ทั้งสี่ทีมในกลุ่มมี 5 แต้มขณะที่ลาซิโอซึ่งเล่นในครึ่งหลังกับ 10 คนหลังจากมานูเอล ลาซซารีถูกไล่ออก ก็เสมอกับสเตอร์มกราซ 2-2 ที่กรุงโรมเช่นกัน ไฟรบูร์กขยายเวลานําเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม G และเข้าใกล้รอบคัดเลือกในรอบน็อคเอาท์ด้วยชัยชนะ 4-0 ที่น็องต์
ประตูช่วงท้ายเกมของเควินเชดและจองอูยอง ทําให้สกอร์รวมเป็นสําคัญหลังจากที่ ลูคัส คูเบลอร์ และ ไมเคิล เกรกอริตช์ ทําให้ไฟร์บวร์กเป็นจ่าฝูง คาราบัค รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม ตามหลังไฟร์บวร์ก 5 แต้ม หลังถูกโอลิมเปียกอสถล่ม 0-0 ในบ้าน
ซึ่งรั้งอันดับ 1 ของตาราง เฟเรนควารอสไต่อันดับสูงสุดของกลุ่ม H หลังจากเอาชนะเรดสตาร์เบลเกรด 2-1 ในบูดาเปสต์ ในขณะที่แทร็บซอนสปอร์ขยับขึ้นเป็นอันดับสองหลังจากชนะโมนาโกในบ้าน 4-0 อย่างถล่มทลาย